• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512062 เม ย1ผ 3ใครค อพ อของล กในท oง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 8, 2025
in Uncategorized
0
D0512062 เม ย1ผ 3ใครค อพ อของล กในท oง (ละครส น) หน งส นด BSC part2

ปฏิรูปเศรษฐกิจไทย 2568: ถอนรากถอนโคนสู่ยุคใหม่แห่งการเติบโตและการลงทุน

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเงินและเศรษฐกิจไทยมายาวนานกว่าทศวรรษ ผมมองว่าปี 2568 คือห้วงเวลาสำคัญยิ่งที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงและตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่ออนาคต การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% มาอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่ใช่เพียงตัวเลขทางสถิติ แต่คือสัญญาณอันตรายที่บีบให้เราต้องรื้อถอนและสร้างสรรค์โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ หากต้องการหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างแท้จริง

สถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังก้าวเข้าสู่ปี 2568 ชี้ชัดว่า หากเรายังคงดำเนินนโยบายแบบเดิม เศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตอย่างเชื่องช้า รายได้ต่อหัวประชากรที่ยังคงวนเวียนอยู่ราว 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นต่ำเกินไปสำหรับประเทศที่มีศักยภาพและเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ความท้าทายไม่ใช่แค่เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่คือการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องลงลึกถึงโครงสร้างพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนวิธีคิด และการวางยุทธศาสตร์ที่เฉียบคมเพื่อดึงดูด การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีคุณภาพ และสร้าง ระบบนิเวศ SME ที่เข้มแข็งไปพร้อมกับการแก้ปัญหา หนี้ครัวเรือน ที่เป็นเสมือนโซ่ตรวนที่ถ่วงการเติบโต

ปลดล็อค GDP: ปฏิรูปเชิงโครงสร้างคือทางรอด

จากประสบการณ์ตรงในตลาดทุน ผมเชื่อมั่นว่าหัวใจของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยคือการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่จริงจังและยั่งยืน สิ่งที่เราพูดถึงมานานแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมคือการแก้ปัญหาที่รากฐาน ซึ่งหากทำสำเร็จจะส่งผลดีต่อภาพรวมอย่างมหาศาล

หนึ่งในปัญหาเร่งด่วนที่สุดคือ หนี้ครัวเรือน ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อ กำลังซื้อ และ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในภาค อสังหาริมทรัพย์ สะท้อนให้เห็นว่าหนี้ครัวเรือนได้กลายเป็นกับดักที่ทำให้กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายส่วนติดขัด การตั้งเป้าลดหนี้ครัวเรือนให้เหลือ 80% ของ GDP นั้นไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือการสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับครัวเรือน ปลดล็อกศักยภาพการบริโภคและการลงทุน และเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ง่ายขึ้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงมาตรการชั่วคราว แต่ต้องเป็นแผนระยะยาวที่ครอบคลุมการปรับโครงสร้างหนี้ การให้ความรู้ทางการเงิน และการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

ดึงดูด FDI คุณภาพ: สร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

อีกหนึ่งเสาหลักของการปฏิรูปคือการเร่งดึงดูด การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและสอดคล้องกับ New S-Curve ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีดิจิทัล, อุตสาหกรรมสีเขียว, ชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Economy), หรือยานยนต์ไฟฟ้า เราจำเป็นต้องดึงดูด เทคโนโลยีล้ำสมัย และ องค์ความรู้ใหม่ๆ เข้ามา เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวข้ามจากการเป็นฐานการผลิตต้นทุนต่ำไปสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบมาตรการส่งเสริมที่ดึงดูดและตรงจุด และที่สำคัญคือต้องทำให้เกิดการลงทุนจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขคำขอสิทธิ์ แต่ต้องเห็นการลงทุนที่เกิดขึ้นจริงบนผืนแผ่นดินไทย

ขณะเดียวกัน ภาคการส่งออก และ การท่องเที่ยว ยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักที่ไม่อาจละเลยได้ เราต้องพัฒนาสองภาคส่วนนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการแสวงหาตลาดใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และที่สำคัญคือการยกระดับ คุณค่า ของสินค้าและบริการ โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย เรามีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง การท่องเที่ยวพรีเมียม ระดับโลก หากมีการวางแผนและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรอย่างเหมาะสม

อำลาประชานิยม: สร้างวินัยทางการคลัง

จากมุมมองนักบริหารการเงิน ผมขอย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องลด ละ เลิก นโยบายประชานิยม ที่ใช้เงินงบประมาณอย่างไม่เกิดประโยชน์ในระยะยาว และมักสร้างภาระทางการคลังให้กับประเทศในภายหลัง ประชานิยมอาจช่วยบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าได้บ้าง แต่ไม่เคยแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างยั่งยืน และมักจะบิดเบือนกลไกตลาดและสร้างวินัยทางการเงินที่หย่อนยาน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริงต้องอาศัยการวินิจฉัยและรักษาที่ตรงจุด ไม่ใช่เพียงแค่การใช้ยาแก้ปวดที่ออกฤทธิ์เพียงชั่วคราว หากรัฐบาลใหม่มีความกล้าหาญที่จะเดินหน้าในแนวทางนี้ เราจะได้เห็นสัญญาณบวกจาก ตลาดหุ้น ที่จะตอบรับด้วยความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น

ตลาดทุนคือหัวใจ: เครื่องยนต์แห่งความมั่งคั่ง

ผมอยากเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับ ตลาดหุ้น มากกว่าที่ผ่านมา ตลาดทุนคือแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นหัวใจที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้หลายรอบ หากมีการบริหารจัดการที่ดี ตลาดหุ้นขาขึ้นจะกระตุ้น การบริโภค ในระบบเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน เพราะผู้ที่ได้รับ ผลตอบแทนจากการลงทุน จะมี กำลังซื้อ เพิ่มขึ้นและกล้าใช้จ่าย ตลาดทุนไม่ได้เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นกลไกที่สามารถสร้าง ความมั่งคั่ง และ โอกาสการลงทุน ให้กับประชาชนทุกระดับรายได้ หากเราสามารถส่งเสริมให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมและเข้าใจการลงทุนได้มากขึ้น ตลาดหุ้นจะกลายเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจอีกตัวที่ทรงพลัง

เพื่อให้กลไกเหล่านี้ทำงานได้อย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายเศรษฐกิจต้องมีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลแล้วเปลี่ยนนโยบายใหม่ทั้งหมด ความผันผวนทางการเมืองทำให้ นักลงทุนต่างชาติ ขาดความเชื่อมั่น และมองว่าประเทศไทยมีความเสี่ยง การมีพรรคขนาดใหญ่ที่สามารถบริหารกระทรวงเศรษฐกิจได้อย่างมี เอกภาพ โดยมี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่เข้มแข็งและมองเห็นภาพรวมอย่างแท้จริง จะช่วยให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้น

อสังหาริมทรัพย์และคุณภาพชีวิต: โจทย์ท้าทายรอบ 20 ปี

ในส่วนของภาค อสังหาริมทรัพย์ ปี 2568 และต่อเนื่องไปถึงปี 2569 ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง สอดรับกับการคาดการณ์ว่าตลาดจะยังคงอยู่ในช่วงปรับฐานอย่างชัดเจน ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 และมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างหลายประการ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่วส่งผลโดยตรงต่อ การอนุมัติสินเชื่อบ้าน ทำให้มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50-70% ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย

ประเด็นที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนไทยและต่างชาติต่างเรียกร้องคือการปรับปรุง Ease of Doing Business หรือ ความสะดวกในการประกอบธุรกิจ เราต้องการเห็นรัฐบาลแก้ปัญหา คอร์รัปชัน ในระบบราชการที่ทำให้เกิด ต้นทุนแฝง และความล่าช้าในการขอใบอนุญาตต่างๆ ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับภาระ แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มองหาโอกาสในไทย การนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการบริการภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลยพินิจ และเพิ่มความโปร่งใส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ

อัพสกิลแรงงาน: สร้างทุนมนุษย์แห่งโลกอนาคต

อีกหนึ่งคานงัดสำคัญที่ไทยต้องเร่งดำเนินการคือการ เพิ่มศักยภาพแรงงาน ด้วยการ อัพสกิล (Upskill) และ รีสกิล (Reskill) ให้คนไทยมีทักษะที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม New S-Curve และ เศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนใน ทุนมนุษย์ เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว เราต้องเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานไทยสำหรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุค AI, Automation และ Green Economy เพื่อให้ประเทศไทยสามารถดึงดูด การลงทุนทางเทคโนโลยี และ นวัตกรรม ได้อย่างต่อเนื่อง

ภูเก็ต: ต้นแบบเมืองท่องเที่ยวระดับโลกกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

กรณีของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็น เมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญของประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงทั้งศักยภาพและความท้าทายอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวและ นักลงทุนต่างชาติ หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น การจราจรหนาแน่น ปัญหาขยะ น้ำประปาไม่เพียงพอ และ ความปลอดภัย ล้วนเป็นอุปสรรคที่บั่นทอนเสน่ห์ของเมือง รัฐบาลต้องเร่งลงทุนใน เมกะโปรเจกต์ ด้าน โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ทางด่วน และระบบการจัดการขยะที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับภูเก็ตให้เป็น เมืองน่าอยู่ และ เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระดับโลกอย่างแท้จริง

สิ่งที่ชาวภูเก็ตและนักลงทุนต่างชาติเรียกร้องมานานคือการจัดตั้ง ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ที่แท้จริง เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อขออนุญาตกับหน่วยงานราชการ ลดความล่าช้า และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่ต้องการ ลงทุนระยะยาว หรือ พำนักอาศัยระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่ม ชาวต่างชาติวัยเกษียณ ที่มี กำลังซื้อสูง และมองหาประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สอง

สรุปและก้าวต่อไป

ปี 2568 ไม่ใช่เวลาของการประนีประนอมหรือการแก้ปัญหาแบบผิวเผินอีกต่อไป ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และจริงจังในทุกมิติ ตั้งแต่การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การสร้างวินัยทางการคลัง การเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน การดึงดูด FDI คุณภาพ การพัฒนาทุนมนุษย์ การยกระดับ Ease of Doing Business และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผมเชื่อมั่นว่าศักยภาพของประเทศไทยยังมีอยู่อย่างมหาศาล หากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมมือกันอย่างจริงจัง มุ่งมั่น และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เราจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนได้อีกครั้ง สร้างอนาคตที่สดใสและมั่นคงสำหรับทุกคนในประเทศ

ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันกำหนดทิศทางประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและชาญฉลาด เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพและเป็นธรรมอย่างแท้จริง มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้เศรษฐกิจไทยในยุค 2025 และปีต่อๆ ไปกันครับ!

Previous Post

D0512061 เป นเม ยฝร งม แต คนเข าหาขอย มต ง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512063 ยแก อยากเข าร านอาหารหร (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512063 ยแก อยากเข าร านอาหารหร (ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512063 ยแก อยากเข าร านอาหารหร (ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1210026 อด ตไม สำค ญเท าป จจ part2
  • D1210025 หญ งม ตำหน [ตอนจบ] part2
  • D1210024 มาคลายเคร ยดก นหน อยนะค part2
  • D1210023 นอกกาย แค ความส ขช วคราว![ตอนจบ] part2
  • D1210022 จฉาคนอ ไม วเอง [ตอน1] part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.