• Sample Page
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
dungthailan.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

D0512052 ชายตกอ พถ งข นล กเง นศw(ละครส น) หน งส นด BSC part2

admin79 by admin79
December 8, 2025
in Uncategorized
0
D0512052 ชายตกอ พถ งข นล กเง นศw(ละครส น) หน งส นด BSC part2

วิสัยทัศน์เศรษฐกิจไทย 2568: ยุคปฏิรูปเชิงโครงสร้าง หลุดพ้นกับดัก GDP ต่ำ 1% ก่อนการเลือกตั้ง 2569

ปี 2568 กำลังจะปิดฉากลง ท่ามกลางบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสที่รอคอยการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประเทศไทย ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเงินและการลงทุนมานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่านี่คือช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ เรากำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำกว่าศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่วนเวียนอยู่แค่ 1-2% มายาวนาน กำลังส่งสัญญาณเตือนภัยว่าหากไม่เร่งลงมือแก้ไขเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง ประเทศไทยอาจติดกับดักรายได้ปานกลางและถอยห่างจากประเทศคู่แข่งในภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้น

ด้วยการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2569 ที่กำลังจะมาถึง สิ่งที่เราคาดหวังจากรัฐบาลใหม่ ไม่ใช่เพียงการเข้ามาบริหารจัดการแบบวันต่อวัน แต่คือการมีวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญและแผนปฏิบัติการที่เด็ดขาด เพื่อรื้อฟื้นและสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจในระยะยาว นี่คือโอกาสทองที่เราจะต้องใช้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การเงิน และการบริหารประเทศครั้งใหญ่ เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวข้ามความท้าทาย สู่การเติบโตที่ยั่งยืนและสมดุลในยุค 2025 และในทศวรรษหน้า

การรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ: หนีพ้นกับดัก GDP ต่ำ 1%

ปัญหาหลักที่กัดกร่อนศักยภาพเศรษฐกิจไทยมานานคืออัตราการเติบโตของ GDP ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน การเติบโตเพียง 1-2% ต่อปี ไม่เพียงพอที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร ยิ่งไปกว่านั้น รายได้ต่อหัว (GDP per capita) ของคนไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 8,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เรากำลังถูกประเทศที่เคยอยู่ข้างหลังแซงหน้าไปอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขทางสถิติ แต่เป็นเรื่องของการสร้างโอกาส การเข้าถึงทรัพยากร และอนาคตของคนไทยทุกคน

การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมองให้ลึกไปถึงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ต้องได้รับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ในทุกภาคส่วน การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ใช่เพียงการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่มักจะให้ผลเพียงชั่วคราวและไม่ยั่งยืน

วิกฤตหนี้ครัวเรือน: โซ่ตรวนที่ฉุดรั้งกำลังซื้อ

ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงทะลุ 90% ของ GDP (จากที่หลายฝ่ายเคยคาดหวังให้ลดลงเหลือ 80%) ยังคงเป็น “กับดัก” ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชน และความเข้มแข็งของระบบสถาบันการเงิน การที่ประชาชนมีภาระหนี้สูง ทำให้เม็ดเงินที่จะใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลดลง การกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือเพื่อการลงทุนขยายธุรกิจก็ทำได้ยากขึ้น ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์และ SME

การแก้ปัญหานี้ต้องทำอย่างครบวงจรและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การพักชำระหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะหน้า แต่ต้องมีการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างจริงจัง การส่งเสริมวินัยทางการเงิน การสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้เพิ่ม รวมถึงการกำกับดูแลสถาบันการเงินให้ปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบและเป็นธรรม หากเราไม่สามารถจัดการกับปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างเด็ดขาด การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงเป็นไปได้ยาก

ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI): พลังขับเคลื่อนแห่งอนาคต

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในระดับภูมิภาค การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เข้ามาในประเทศไทยให้มากขึ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างงานที่มีมูลค่าเพิ่ม แต่เราต้องดึงดูด FDI ในอุตสาหกรรมที่ประเทศต้องการอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานสะอาด

นอกจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่ต้องมีความชัดเจนและจูงใจแล้ว สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติต้องการคือ “ระบบนิเวศ” ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงความโปร่งใสของกฎระเบียบ ความแน่นอนของนโยบาย การเข้าถึงแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และความมั่นคงทางการเมือง เราต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนที่ยั่งยืนและมีอนาคต

ลด ละ เลิก นโยบายประชานิยม: สร้างวินัยทางการคลังเพื่ออนาคต

ที่ผ่านมา เรามักเห็นรัฐบาลหลายชุดหันไปใช้นโยบายประชานิยมเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือเพื่อสร้างคะแนนนิยม ซึ่งแม้จะให้ผลดีในระยะสั้น แต่กลับส่งผลเสียอย่างมหาศาลต่อฐานะทางการคลังของประเทศในระยะยาว งบประมาณที่ควรนำไปลงทุนในโครงการที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น การศึกษา การวิจัยและพัฒนา (R&D) โครงสร้างพื้นฐาน หรือการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว กลับถูกใช้ไปกับการแจกจ่ายหรือการอุดหนุนที่ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมี “วินัยทางการคลัง” อย่างเคร่งครัด รัฐบาลใหม่ต้องกล้าที่จะลด ละ เลิกนโยบายประชานิยมที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และหันมาจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนที่สร้างผลิตภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตและสร้างฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ตลาดทุน: หัวใจแห่งการระดมทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นไทยควรได้รับการให้ความสำคัญในฐานะแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือตลาดทุนไทยยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพเท่าที่ควร ทั้งในแง่ของการดึงดูดบริษัทใหม่ๆ เข้ามาจดทะเบียน หรือการสร้างโอกาสการลงทุนให้แก่ประชาชนทุกระดับ

รัฐบาลใหม่ควรผลักดันนโยบายที่ส่งเสริมและพัฒนาตลาดทุนให้มีความเข้มแข็งและน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การสนับสนุนให้บริษัทสตาร์ทอัพและ SME ที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงแหล่งระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ง่ายขึ้น การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนให้แก่ประชาชน เพื่อขยายฐานนักลงทุน และที่สำคัญคือ การสร้างบรรยากาศที่ตลาดหุ้นสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เมื่อตลาดหุ้นเป็น “ขาขึ้น” ผู้ที่ได้กำไรก็จะกล้าใช้จ่าย สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่จะกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในระบบได้อย่างชัดเจน

เสถียรภาพทางการเมืองและทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ

ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสำคัญสูงสุดคือ “เสถียรภาพทางการเมือง” การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่บ่อยครั้ง หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายไปมา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและทำลายความเชื่อมั่นในการลงทุน การที่รัฐบาลมีเสถียรภาพจะช่วยให้การดำเนินนโยบายมีความต่อเนื่องและชัดเจน สามารถวางแผนการพัฒนาประเทศในระยะยาวได้

นอกจากนี้ การมี “ทีมเศรษฐกิจที่มีเอกภาพ” ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถ และมีอำนาจในการตัดสินใจที่ชัดเจน จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาเศรษฐกิจก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปได้ ทีมเศรษฐกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ จะสามารถกำหนดทิศทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและเรียกความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนกลับคืนมาได้

อสังหาริมทรัพย์: ความท้าทายครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี

ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568-2569 ยังคงเผชิญกับความท้าทายสูงสุดในรอบสองทศวรรษ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี และแนวโน้มยังคงชะลอตัวต่อเนื่องอีก 2-3 ปี ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่วส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างมาก จนเกิดปัญหายอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50-70% ซึ่งถือเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการฟื้นตัวของภาคส่วนนี้

หากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้จริง จะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมหาศาล เพราะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อและความสามารถในการกู้ยืมให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ การพิจารณามาตรการส่งเสริมการขายที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม การกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างเมืองใหม่และขยายแหล่งที่อยู่อาศัย จะเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง

ปฏิรูปการบริหารราชการ: สร้างความสะดวกในการทำธุรกิจและขจัดคอร์รัปชัน

ปัญหาคอร์รัปชันและการติดขัดในระบบราชการยังคงเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่บั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ต้นทุนแฝงจากการติดต่อขอใบอนุญาตต่างๆ ความล่าช้าในการอนุมัติ และความไม่โปร่งใส เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะเข้ามาลงทุน และยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยด้วยเช่นกัน

สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการยกระดับ “Ease of Doing Business” ให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่ไม่จำเป็น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการให้บริการภาครัฐ (Digital Government) เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและรวดเร็ว การจัดตั้ง “ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service)” ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ โดยลดการติดต่อหลายหน่วยงาน จะเป็นกลไกสำคัญในการดึงดูดการลงทุนและสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี

ยกระดับทุนมนุษย์: สร้างแรงงานทักษะสูงเพื่อ S-Curve ใหม่

เศรษฐกิจไทยจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว หากเราสามารถยกระดับ “ทุนมนุษย์” ให้มีศักยภาพที่พร้อมรับมือกับโลกยุคใหม่ การ Up-skill และ Re-skill ประชากรไทยให้มีความรู้และทักษะที่ตลาดแรงงานในอุตสาหกรรม New S-Curve ต้องการ เช่น ทักษะด้าน AI, Data Science, Cyber Security, เทคโนโลยีขั้นสูง, การผลิตอัจฉริยะ และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ภาครัฐต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบหลักสูตรและการฝึกอบรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมถึงการสร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต การลงทุนในการพัฒนาบุคลากรเหล่านี้จะช่วยเพิ่มผลิตภาพของประเทศ ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค และทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน

ท่องเที่ยวและ Wellness: อัญมณีแห่งเศรษฐกิจไทย

ประเทศไทยยังคงได้รับการยอมรับในฐานะ “จุดหมายปลายทาง” ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเรามีจุดแข็งอย่างชัดเจนในธุรกิจบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Wellness Tourism” หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาล เรามี “Service Mind” ที่เป็นจุดได้เปรียบ แต่ต้องยกระดับมาตรฐานการบริการให้เป็นสากล และเพิ่มเสน่ห์ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลายและยั่งยืนยิ่งขึ้น

รัฐบาลใหม่ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ (High-Value Tourism) ที่เน้นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อและใช้จ่ายสูง รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพและ Wellness ระดับโลก จะเป็นพระเอกตัวจริงในการสร้างรายได้เข้าประเทศในระยะยาว

โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์: สร้างความเชื่อมโยงสู่ระดับภูมิภาค

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนและการพัฒนาประเทศ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังคงขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอต่อการรองรับการเติบโตของเมือง เช่น ปัญหารถติด ขยะล้นเมือง น้ำประปาไม่เพียงพอ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

รัฐบาลใหม่ต้องเร่งผลักดันเมกะโปรเจกต์ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า การบริหารจัดการน้ำและขยะ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อจัดระเบียบและยกระดับให้ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ด้วยตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนในระบบคมนาคมขนส่งที่ดี จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ไทยเป็นประตูการค้าและการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค

บทสรุปและอนาคตที่ต้องร่วมสร้าง

ปี 2568-2569 คือช่วงเวลาที่ประเทศไทยยืนอยู่บนทางแยก เรามีโอกาสที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดในอดีต และสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามี “รัฐบาล” ที่กล้าตัดสินใจ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในแวดวงการเงินและการลงทุน ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและคนไทย หากเราสามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่เรื้อรัง ลดทอนนโยบายประชานิยมที่บั่นทอนวินัยทางการคลัง ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส เราจะสามารถหลุดพ้นจากกับดัก GDP ต่ำ และก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือประชาชนทุกคน มาร่วมกันสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองและมั่นคงให้แก่ประเทศไทยของเรา “อนาคต” กำลังรอการสร้างสรรค์จากพวกเราทุกคน!

Previous Post

D0512051 เพ อนบ านส งของแล วชอบให เราร บแทน(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post

D0512058 งแต จนไม เห นห วแม วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Next Post
D0512058 งแต จนไม เห นห วแม วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

D0512058 งแต จนไม เห นห วแม วเอง(ละครส น) หน งส นด BSC part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • D1312015 อมแพง อะไหล เก างบรรล EP2 part2
  • D1312014 อตน คนเย ยวเล อตน คนเย ยวเล part2
  • D1312013 อปล อยหน ามหน ไว ทำไม EP2 part2
  • D1312012 กระชากหน ากาก วยหน ากากว เศษ EP2 part2
  • D1312011 4เม ยย งไง ให คลอดว นเด ยวก EP1 part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.