พลิกเกมอสังหาฯ ไทย: กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อความยั่งยืนในยุค 2025-2027
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของตลาดมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่สถานการณ์จะท้าทายและซับซ้อนเท่าช่วงเวลานับตั้งแต่ปี 2024 เข้าสู่กลางปี 2025 นี้ แรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศที่ส่งผลต่อนโยบายมหภาค และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ได้สร้างภูมิทัศน์ที่อสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
วิเคราะห์ภูมิทัศน์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย: ความท้าทายและโอกาสในยุค 2025
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2024-2025 เผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากภาวะอุปทานที่ล้นเกินในบางเซกเมนต์ และอุปสงค์ที่หดตัวลงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเชิงลึก เราเห็นชัดว่าโครงการเปิดใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักพัฒนาอสังหาฯ ในการลงทุน กอปรกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ เพื่อรอความชัดเจนทางเศรษฐกิจและการเมือง นี่ไม่ใช่เพียงแค่การชะลอตัวชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่นักพัฒนาต้องปรับตัว
ปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งตลาดได้อย่างรุนแรง คือ “เศรษฐกิจไทย 2568” ที่ยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และ “การเมือง” ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่อ “ความเชื่อมั่นผู้บริโภค” และ “นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ทั้งในและต่างประเทศ การขาดความต่อเนื่องและชัดเจนของ “นโยบายรัฐบาล” โดยเฉพาะ “ทีมเศรษฐกิจ” ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง “อสังหาริมทรัพย์” กลายเป็นเรื่องที่ต้องไตร่ตรองอย่างหนัก “ดอกเบี้ยบ้าน” ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มภาระให้กับผู้ซื้อ แม้ว่าในระยะหลังเราจะเริ่มเห็นสัญญาณของการทรงตัว แต่การฟื้นตัวที่แท้จริงยังคงต้องอาศัยกลไกขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและนโยบายที่สนับสนุน “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์” อย่างยั่งยืน
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ผมเชื่อว่าวิกฤตย่อมมาพร้อมโอกาสเสมอ สำหรับผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์และพร้อมปรับตัว นี่คือช่วงเวลาแห่งการสร้างความได้เปรียบ หลายบริษัทชั้นนำในตลาดกำลังเร่งปรับ “กลยุทธ์พัฒนาอสังหา” เพื่อรับมือกับ “แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2569” และสร้าง “การฟื้นตัวอสังหาริมทรัพย์” ในระยะยาว
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: ต้นแบบการพลิกเกมสู่ความยั่งยืน
หนึ่งในผู้พัฒนาที่น่าจับตามองและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพลิกเกมอย่างชัดเจนคือ Property Perfect (พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค) ด้วย “ประสบการณ์อสังหา” ที่ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ บริษัทนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ตลอดมา ในช่วงกลางปี 2025 นี้ พวกเขาได้ประกาศ “กลยุทธ์เชิงรุก” ที่ไม่ใช่แค่การประคองตัว แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อ “การเติบโตอย่างยั่งยืน” ไปจนถึงปี 2027 และ beyond
เป้าหมาย “ยอดขายอสังหา” ที่ 11,000 ล้านบาทในปี 2026 ถือเป็นตัวเลขที่ท้าทายแต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบริษัทในการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการวิเคราะห์ “ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven)” ที่แม่นยำ และ “การบริหารความเสี่ยงอสังหา” อย่างรัดกุม โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของ Property Perfect 9,000 ล้านบาท และจากโครงการ “คอนโดมิเนียม” ของ Grand Asset Hotels and Property ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์ แต่เป็นการตั้งเป้าหมายบนพื้นฐานของการปรับปรุงและยกระดับทุกมิติของธุรกิจ
การยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้าง: หัวใจของการสร้างมูลค่า
Property Perfect เข้าใจดีว่าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ที่อยู่อาศัย แต่กำลังมองหา “นวัตกรรมที่อยู่อาศัย” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง และที่สำคัญที่สุดคือ “คุณภาพงานก่อสร้าง” ที่เชื่อถือได้ นี่คือเหตุผลที่กลยุทธ์สำคัญในปี 2026 คือการมุ่งเน้นการยกระดับผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการก่อสร้างในทุกมิติ
แบบบ้านใหม่เพื่อชีวิตที่เหนือกว่า: บริษัทเตรียมเปิดตัว “แบบบ้านใหม่” ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น “บ้านเดี่ยว” ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตอบรับครอบครัวขยาย, “บ้านแฝด” ที่ให้ความเป็นส่วนตัวแต่ยังคงความคุ้มค่า และ “ทาวน์โฮม” ที่ทันสมัยและฟังก์ชันครบครันสำหรับชีวิตคนเมือง แบบบ้านเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงแค่ความสวยงาม แต่ผ่านการคิดวิเคราะห์ร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้สามารถปรับ “ฟังก์ชันภายใน” ให้ใหญ่ขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และรองรับการใช้ชีวิตที่หลากหลายของคนในยุค 2025 ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานที่บ้าน (Work from Home), ห้องออกกำลังกายส่วนตัว, หรือพื้นที่สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
มาตรฐานคุณภาพที่เหนือระดับ: ในอดีต ปัญหาเรื่องคุณภาพงานก่อสร้างมักเป็นจุดอ่อนของหลายโครงการ แต่ Property Perfect กำลังพลิกจุดนี้ให้เป็นจุดแข็ง ด้วยการ “ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง” ที่เข้มข้น พัฒนากระบวนการตรวจสอบให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การตรวจสอบโครงสร้าง ไปจนถึงงานตกแต่งภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกยูนิตที่ส่งมอบถึงมือลูกค้ามีคุณภาพสูงสุด ลดปัญหาจุกจิกหลังการเข้าอยู่ และสร้างความพึงพอใจในระยะยาว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างชื่อเสียงและ “มูลค่าเพิ่มโครงการ”
ปฏิวัติพื้นที่ส่วนกลางสู่ “Health & Lifestyle Club”: มิติใหม่ของการใช้ชีวิต
หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสอดคล้องกับ “แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ 2569” อย่างยิ่ง คือการปรับปรุงสโมสรรวม 25 แห่งภายในโครงการต่าง ๆ ให้เป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ (Health & Lifestyle Club)” อย่างเต็มรูปแบบ นี่คือการมองเห็นเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ “สุขภาพและความเป็นอยู่” ที่ดี และต้องการ “ที่อยู่อาศัยครบวงจร” ที่ไม่ใช่แค่บ้าน แต่เป็น “ชุมชนอสังหาฯ” ที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
แนวคิด “Health & Lifestyle Club” ไม่ใช่แค่การมีฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำทั่วไป แต่เป็นการสร้างพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพและความสะดวกสบายอย่างครบวงจร ตัวอย่างเช่น:
ศูนย์ออกกำลังกายและสุขภาพแบบองค์รวม: พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย คลาสโยคะ พิลาทิส และผู้ฝึกสอนส่วนตัว
พื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Space): สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่ทำงานนอกบ้านที่เงียบสงบและสร้างแรงบันดาลใจ
คลินิกสุขภาพหรือห้องปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine): อำนวยความสะดวกด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน
ร้านอาหารเพื่อสุขภาพและคาเฟ่ออร์แกนิก: สนับสนุนไลฟ์สไตล์การกินที่ดี
พื้นที่สันทนาการสำหรับทุกวัย: ทั้งสนามเด็กเล่น พื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ และลานกิจกรรมสำหรับครอบครัว
บริการพิเศษ: เช่น การดูแลผู้สูงอายุ, บริการจัดส่งอาหารเพื่อสุขภาพ, หรือแม้แต่บริการนวดเพื่อผ่อนคลาย
การลงทุนใน “Health & Lifestyle Club” นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกโครงการ แต่ยังเป็นการสร้างความแตกต่างและ “มูลค่าเพิ่มโครงการ” อย่างมหาศาล ทำให้โครงการมีความน่าสนใจและแข่งขันได้ใน “ตลาดบ้านหรู” และ “บ้านจัดสรร” โดยรวม โดยเฉพาะสำหรับกลุ่ม “ต่างชาติซื้ออสังหาไทย” ที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีพร้อมการลงทุน
การลงทุนในธุรกิจสร้างรายได้ประจำ: เสริมภูมิคุ้มกันและความยั่งยืน
ในโลกธุรกิจที่ไม่แน่นอน การพึ่งพารายได้หลักจากแหล่งเดียวถือเป็นความเสี่ยง Property Perfect เข้าใจหลักการนี้เป็นอย่างดี จึงได้วางแผน “การลงทุนระยะยาว” ในธุรกิจที่สามารถสร้าง “รายได้ประจำ (Recurring Income)” เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้แก่บริษัท
เป้าหมาย ambitious คือการเพิ่มสัดส่วน “รายได้ประจำ” ให้ไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2028 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้าง “อสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน” และลดการพึ่งพิงเพียงแค่ “การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ “กำลังซื้อบ้าน” ยังคงชะลอตัว
แนวทางในการสร้าง “รายได้ประจำ” นี้ อาจรวมถึง:
ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว: ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทในเครืออย่าง Grand Asset
ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า: เช่น ศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall), พื้นที่สำนักงานให้เช่า หรือ Service Apartment ที่รองรับกลุ่มคนทำงานและนักท่องเที่ยว
ธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Management): การบริหารจัดการอาคารชุดและ “บ้านจัดสรร” ครบวงจร
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือธุรกิจพลังงานทางเลือก: ที่สอดรับกับเทรนด์ “อสังหาเพื่อการลงทุน” ที่ยั่งยืนและสร้าง “ผลตอบแทนอสังหา” ที่มั่นคง
การเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก “บริษัทร่วมทุน”: โดยการแสวงหาพันธมิตรที่มีศักยภาพในธุรกิจที่เสริมซึ่งกันและกัน
การปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับขึ้น และการเน้นการสร้างรายได้จากบริษัทร่วมทุนเหล่านี้ จะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ Property Perfect สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างคล่องตัว มีความยืดหยุ่นต่อความผันผวนของตลาด และบรรลุเป้าหมาย “การลงทุนระยะยาว” ที่วางไว้
การบริหารจัดการที่รัดกุมและนวัตกรรมข้อมูล (Data-Driven Insights)
ความสำเร็จในยุคที่ตลาดท้าทายนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กรเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับความสามารถในการ “การวิเคราะห์ข้อมูล” เชิงลึก และการนำ “ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven)” มาใช้ในการตัดสินใจอย่างแม่นยำ Property Perfect ได้ตอกย้ำถึงการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์อันยาวนานผนวกกับเทคโนโลยี เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค, แนวโน้มตลาด, และศักยภาพของ “ทำเลทอง” ได้ดียิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้บริษัทสามารถ:
พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาด: สร้างสรรค์ “แบบบ้านใหม่” และ “นวัตกรรมที่อยู่อาศัย” ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซกเมนต์
กำหนดราคาที่เหมาะสม: เพื่อดึงดูด “กำลังซื้อ” ที่ยังมีอยู่และกระตุ้นการตัดสินใจ
เลือกทำเลที่ตั้งโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ: เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการขาย
บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ “ราคาที่ดิน” และต้นทุนวัสดุก่อสร้างยังคงผันผวน
การผสมผสานระหว่างประสบการณ์อันโชกโชนกับความชาญฉลาดทางข้อมูล คือพลังขับเคลื่อนที่ทำให้ Property Perfect มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายและเป็นผู้นำในการสร้าง “การฟื้นตัวอสังหาริมทรัพย์” ในช่วงปี 2026-2027
สรุปและคำเชิญชวน
วิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองในยุค 2025 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีวิสัยทัศน์ Property Perfect ไม่ได้เพียงแค่เผชิญหน้ากับความท้าทาย แต่ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วย “กลยุทธ์เชิงรุก” ที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์นวัตกรรม “Health & Lifestyle Club” ไปจนถึงการสร้างฐาน “รายได้ประจำ” ที่แข็งแกร่ง นี่คือพิมพ์เขียวของการ “อสังหาริมทรัพย์ยั่งยืน” ที่จะขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและลูกค้าในระยะยาว
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองเห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลในทิศทางนี้ และเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการมองหา “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ที่มีอนาคต ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ที่กำลังมองหา “ที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ” ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ นักลงทุนที่มองหา “ผลตอบแทนอสังหา” ที่ยั่งยืน หรือคู่ค้าทางธุรกิจที่มองเห็นโอกาสในการสร้างสรรค์ร่วมกัน ผมขอเรียนเชิญท่านสัมผัสกับวิสัยทัศน์และนวัตกรรมเหล่านี้ด้วยตัวท่านเอง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตอสังหาริมทรัพย์ไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืนไปพร้อมกันกับผู้นำที่กล้าคิด กล้าทำ และมีวิสัยทัศน์ไกลอย่าง Property Perfect
เราเชื่อมั่นว่าด้วย “นวัตกรรมที่อยู่อาศัย” ที่แท้จริง และ “การบริหารความเสี่ยง” ที่รอบคอบ จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของ “ตลาดอสังหาฯ” และนำพาประเทศไทยก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้อย่างสง่างาม เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคน
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมค้นพบมิติใหม่ของการใช้ชีวิตและการลงทุนไปกับโครงการคุณภาพจาก Property Perfect ที่พร้อมตอบทุกโจทย์ความต้องการในยุค 2025 และอนาคต ท่านสามารถเยี่ยมชมโครงการและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้แล้ววันนี้.

