พลิกเกมอสังหาฯ 2569: พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กับยุทธศาสตร์ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ ทะยานสู่หมื่นล้าน
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวัฏจักรของตลาดทั้งช่วงรุ่งเรืองและช่วงที่ท้าทายอย่างแสนสาหัส และในปัจจุบัน ปี 2568 นี้ เรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิที่เรียกได้ว่าหินที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่รุมเร้าจนทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบสองทศวรรษ ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังซื้อหดหาย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดต่ำ โครงการเปิดใหม่ลดฮวบ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญ ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกสำหรับปี 2569 ที่ไม่เพียงแต่จะรับมือกับความท้าทาย แต่ยังมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้ายอดขายทะยานสู่ 11,000 ล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนสัดส่วนรายได้ประจำให้แตะ 30% ภายในสามปีข้างหน้า นี่คือการเปิดเกมที่น่าจับตา และสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมในการปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ใหม่ของตลาด อสังหาริมทรัพย์ไทย
วิกฤตการณ์อสังหาฯ ไทย: มรสุมเศรษฐกิจและการเมืองที่ไร้สัญญาณฟื้นตัว
ตลอดปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับพายุที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวและภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงสร้างแรงกดดันต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก แม้ภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว แต่กำลังซื้อภายในประเทศกลับอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภคจำนวนมากเผชิญกับภาระหนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง และความไม่มั่นคงในรายได้ ทำให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ ถูกชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด การหดตัวของอุปสงค์นี้ไม่เพียงแต่ฉุดรั้งตลาดที่อยู่อาศัย แต่ยังส่งผลต่อภาพรวมของ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยรวม
นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจแล้ว ปัจจัยทางการเมืองก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่เข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์ ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลหลายครั้ง ได้ส่งผลให้ขาดความชัดเจนและต่อเนื่องในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว ความไม่มั่นคงนี้กัดกร่อนความเชื่อมั่นของทั้งนักลงทุนและผู้บริโภคอย่างรุนแรง ทั้งนักลงทุนต่างชาติที่เคยเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดคอนโดมิเนียมและกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุน ต่างชะลอการตัดสินใจเพื่อรอดูความชัดเจน รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในปีหน้า (2569) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น และวางรากฐานสำหรับการเติบโตในระยะต่อไป หากมีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและนโยบายที่ชัดเจน จะเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้น ตลาดที่อยู่อาศัยไทย ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
จากข้อมูลที่เราเห็น โครงการเปิดใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีเพียง 30,000 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เทียบกับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ประมาณ 46,000 ยูนิต สะท้อนให้เห็นถึงภาวะอุปทานส่วนเกินในบางเซกเมนต์ และการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน การลดลงของกำลังซื้อทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่แท้จริง
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค: เข็มทิศท่ามกลางพายุ พร้อมเป้าหมาย 11,000 ล้านบาท
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ภายใต้การนำของ คุณศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำพาองค์กรฝ่าฟันมรสุมนี้ ด้วยความระมัดระวังควบคู่กับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เป้าหมายยอดขาย 11,000 ล้านบาทสำหรับปี 2569 ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญ แต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท ยอดขายนี้แบ่งเป็น 9,000 ล้านบาทจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และอีก 2,000 ล้านบาทจากโครงการคอนโดมิเนียมของแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ แม้ตลาดจะยังอยู่ในภาวะหดตัว แต่ประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) คือหัวใจสำคัญที่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้สามารถขับเคลื่อนยอดขายได้ตามเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานนี้ ไม่ได้มาจากการคาดเดา แต่มาจากการประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบและการปรับกลยุทธ์ที่ลึกซึ้ง เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและภูมิทัศน์ของตลาด การฟื้นตัวของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จะสามารถปรับตัวและสร้างการเติบโตได้อย่างไรในยุคที่เต็มไปด้วยความผันผวน
กลยุทธ์ “Data-Driven” สู่การปฏิวัติผลิตภัณฑ์และคุณภาพการก่อสร้าง
หัวใจสำคัญของกลยุทธ์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในปี 2569 คือการยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้าง โดยอาศัยหลักการ Data-Driven อย่างแท้จริง การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการด้านฟังก์ชันการใช้งาน รูปแบบการใช้ชีวิตที่ผสมผสานทั้งการทำงานและพักผ่อนในบ้าน (Hybrid Living) รวมถึงเทรนด์ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (Wellness & Green Living) ได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบและพัฒนาโครงการใหม่ๆ
บริษัทเตรียมเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกภายในและภายนอกองค์กร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค 2025-2026 ที่มองหามากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือ “บ้าน” ที่เข้าใจชีวิตของพวกเขา
การปรับรูปแบบบ้านและฟังก์ชันภายใน: แบบบ้านใหม่จะเน้นพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ขึ้น มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามความต้องการ เช่น ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถเป็นได้ทั้งโฮมออฟฟิศ ห้องเรียนออนไลน์ หรือห้องออกกำลังกายภายในบ้าน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน การระบายอากาศและแสงธรรมชาติ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่
นวัตกรรม Smart Home และการประหยัดพลังงาน: การผสานเทคโนโลยี Smart Home เข้ากับตัวบ้านจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงาน เช่น ระบบควบคุมแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ระบบกักเก็บน้ำฝน หรือการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Building Materials) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น
ควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างอย่างเข้มข้น: ในภาวะที่การแข่งขันสูง คุณภาพคือกุญแจสำคัญ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มุ่งมั่นพัฒนากระบวนการตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างให้สูงขึ้น เพื่อส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพสูงสุด ปราศจากปัญหาจุกจิกหลังการเข้าอยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและชื่อเสียงให้กับแบรนด์ในระยะยาว
การปรับปรุงโครงการที่มีอยู่: นอกจากโครงการใหม่แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและพัฒนาโครงการที่มีอยู่ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก หรือการนำเสนอบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป
กลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนที่สำคัญในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดึงดูดลูกค้าในสภาวะที่กำลังซื้อจำกัด
ยกระดับประสบการณ์: จากคลับเฮาส์สู่ Health & Lifestyle Hub เต็มรูปแบบ
นอกจากการพัฒนาตัวบ้านแล้ว พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังมองไปถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้านผ่านการปรับปรุงสโมสรภายในโครงการรวม 25 แห่ง สู่การเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์” (Health & Lifestyle Club) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวล้ำและสอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในยุคปัจจุบัน
ในโลกหลังการระบาด ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจมากขึ้น การมีพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ใช่แค่สถานที่ออกกำลังกาย แต่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่ส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและใจ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย “Health & Lifestyle Club” จะไม่ใช่แค่สโมสรทั่วไป แต่จะถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่ครบวงจร ประกอบด้วย:
โซนสุขภาพและฟิตเนส: นอกจากห้องออกกำลังกายมาตรฐานแล้ว อาจมีการเพิ่มสตูดิโอโยคะ พิลาทิส ห้องอบไอน้ำ ซาวน่า รวมถึงบริการเทรนเนอร์ส่วนตัวหรือคลาสออกกำลังกายเฉพาะทาง
พื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space): ตอบรับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด ที่ลูกบ้านสามารถมาทำงานในบรรยากาศที่เงียบสงบ มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยไม่ต้องเดินทางออกไปข้างนอก
กิจกรรมเพื่อสังคมและสุขภาพจิต: จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปด้านสุขภาพ โภชนาการ การทำสมาธิ หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมการรวมกลุ่มของลูกบ้าน เพื่อสร้างความผูกพันและชุมชนที่แข็งแกร่ง
พื้นที่สันทนาการสำหรับทุกวัย: สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ห้องสมุด หรือพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ส่วนตัว ที่รองรับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย
บริการพิเศษ (Concierge Services): อาจมีการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนำเสนอบริการเสริม เช่น บริการนวด สปา การตรวจสุขภาพเบื้องต้น หรือบริการจัดเลี้ยง ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าและดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค
แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างให้กับโครงการ แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่ยั่งยืน และเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันยอดขาย เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ซื้อแค่ “บ้าน” แต่ซื้อ “ประสบการณ์” และ “คุณภาพชีวิต” โดยรวม
สร้างภูมิคุ้มกันธุรกิจ: กลยุทธ์รายได้ประจำ 30% ใน 3 ปี
ในภาวะตลาดที่ผันผวน การพึ่งพารายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้ตระหนักถึงความจริงนี้ และกำลังเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับขึ้น พร้อมทั้งวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างฐานรากที่แข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2571 ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงและลดความผันผวนของธุรกิจในระยะยาว
การกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำนี้ เป็นหัวใจของการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับองค์กรในยุคเศรษฐกิจที่คาดเดายาก บริษัทกำลังมองหา โอกาสลงทุนอสังหา ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจรวมถึง:
ธุรกิจโรงแรมและบริการ: การลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทในเครืออยู่แล้ว การขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจนี้ หรือการพัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สำหรับเช่าระยะยาว
พื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์: การลงทุนในโครงการมิกซ์ยูส ที่มีพื้นที่ค้าปลีก สำนักงาน หรือพื้นที่ให้เช่าอื่นๆ ซึ่งจะสร้างรายได้ค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจศูนย์ดูแลสุขภาพและผู้สูงอายุ (Wellness & Senior Living): ด้วยการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในประเทศไทย การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมบริการดูแลผู้สูงอายุ หรือศูนย์ดูแลสุขภาพ อาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างรายได้ประจำและตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต
การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์: การเสนอบริการบริหารจัดการโครงการให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างค่าธรรมเนียมอย่างสม่ำเสมอ
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ: อาจเป็นไปได้ที่จะเห็นการลงทุนในเทคโนโลยี PropTech หรือแพลตฟอร์มที่สร้างรายได้ผ่านค่าธรรมเนียมหรือการเป็นพาร์ทเนอร์
การที่บริษัทมุ่งเน้นการสร้างรายได้ประจำ ไม่ใช่แค่การมองหาผลตอบแทน แต่เป็นการสร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน ทำให้บริษัทสามารถลงทุนในโครงการใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเงินแม้ในสภาวะตลาดที่ท้าทาย แนวทางนี้เป็นสิ่งที่เราเห็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั่วโลกใช้ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว และถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ อนาคตของเศรษฐกิจไทย และ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
การมองไปข้างหน้า: อสังหาริมทรัพย์ไทยในยุคใหม่
ปี 2569 และปีต่อๆ ไป จะเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวอย่างเข้มข้นสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ผู้ประกอบการที่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ ไม่ใช่แค่ผู้ที่ “สร้าง” แต่คือผู้ที่ “เข้าใจ” ผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะ “พลิกโฉม” ธุรกิจด้วยนวัตกรรมและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ความหวังสำหรับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ ไทยขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมืองและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน แต่ในระหว่างที่รอความชัดเจนจากภาครัฐ ผู้ประกอบการเองก็ต้องไม่หยุดนิ่ง
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กำลังวางรากฐานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยีมากขึ้น การผสมผสานแนวคิด Health & Lifestyle Club เข้ากับที่อยู่อาศัย รวมถึงการมุ่งเน้นคุณภาพและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ การขยายฐานรายได้ประจำก็เป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดในการลดความเสี่ยงและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
ในยุคที่ตลาดผันผวน การตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและการปรับตัวที่รวดเร็วคือสิ่งสำคัญ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กำลังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะนำพาองค์กรผ่านพ้นวิกฤต และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตในอนาคต
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง
ในฐานะผู้ที่สนใจในทิศทางของตลาด อสังหาริมทรัพย์ไทย หรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ การเปิดเกมรุกของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในปี 2569 จึงเป็นสิ่งที่ห้ามพลาด ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นนวัตกรรม คุณภาพ และการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างรอบด้าน จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิต ร่วมสำรวจโครงการและแนวคิดสุดล้ำจากพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เพื่อค้นพบประสบการณ์ที่อยู่อาศัยที่เหนือกว่า พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่จะกำหนดทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต่อไปในอนาคตอันใกล้

